2558/09/07

อยากไปเที่ยวแบบมันส์ๆต้องชวนเพื่อนเเบบนนี้ไปด้วยแล้วจะรู้ว่าทริปท่องเที่ยวของคุณจะสนุกจนไม่มีวันลืม



1.เพื่อนเงินหนักกระเป๋าตุง Rich money.
เพื่อนประเภทนี้จัดว่าต้องหามาร่วมเดินทางเป็นพิเศษโดยเฉาะคนที่ใจใหญ่ เพราะอะไรนะหรอเพราะคุณจะได้กิน(แดก)ฟรี อิ่มฟรี ฟรีๆ เที่ยวฟรี ค่าพักฟรี  ฮ่าๆ อย่างน้อยคุณก็สบายกระเป๋าไปบ้างไง แต่ขอย้ำว่าเพื่อนของคุณต้องใจถึงจริงๆ ถึงจะไปกันได้


2.เพื่อนตามใจฉัน Follow me.
เพื่อนประเภทนี้ต้องบอกก่อนเลยว่าคุณจะทำอะไร จะไปไหน จะกินอะไร คุณจะว่ายังไงมันตามใจหมดคนแบบนี้มักจะอะไรก็ได้ไม่เดือดร้อนอะไร พามันไปด้วยสบายใจละครับไม่ต้องมาเสียเวลาทะเลาะ เพราะมันคือเพื่อน มนุษย์เงียบ!


3.เพื่อนไกด์  Please Guide me dude!
เพื่อนประเภทนี้คือเพื่อนที่ต้องชวนมันไปเที่ยวให้ได้ หากออกทริบแล้วกลัวจะไปไม่ถูกพามันไปเลยครับ เพราะพวกนี้มักจะมีความรู้เยอะ ประสบการณ์ก็ไม่เบา รับรองเที่ยวสบายใจ


4.เพื่อนภาษา Human languages
หากไปเที่ยวต่างประเทศถ้าคุณภาษาไม่ถนัด ควรหาเพื่อนที่เก่งภาษาไปด้วยจะช่วยหึคุณเที่ยวแบบไม่กังวลว่าจะสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง ยิ่งมีเพื่อนเก่งภาษากันหลายคนยิ่งดีเพราะจะได้ช่วยกันแก้ปัญหาได้เวลาเกิดเหตุขัดอะไรจะได้แก้ปัญหางายมากขึ้น


5.เพื่อนตลก Comedy Friends.
เพื่อนประเภทนี้ถ้าไปเที่ยวที่ไหนแล้วมันจะหาเรื่องให้คุณขำได้ตลอดเวลา รับรองว่าถ้าไปแล้วเที่ยวนี้จะไม่กร่อยแน่นอนเลยครับ ความฮากระจาย


 สำหรับบทความนี้สั้นๆนะครับ เจอกันบทความหน้าในหัวข้อ เพื่อนที่คุณไม่ควรพาไปร่วมทริป


4 วิธีเติมเต็มความรักไม่ให้น่าเบื่อกับการแกล้งเเฟนก่อนนอนสุดเกรียน!

          


                  
         
                 4 วิธีเติมเต็มความรักไม่ให้น่าเบื่อกับการแกล้งเเฟนก่อนนอนสุดเกรียน!

หลายคู่อาจจะเบื่อกับการใช้ชีวิตคู่รู้สึกไม่มีอะไรตื่นเต้นในชีวิตคู่รักประจำวันเลย วันนี้มีวิธีมานำเสนอคุณผู้อ่านที่อยากจะทำอะไรสนุกๆให้คู่รักได้โมเมนต์แปลกใหม่บ้าง
ลองทำตามวิธีเหล่านี้เลยนะครับ

1.แกล้งทำให้ตกใจ
คุณผู้อ่านต้องรอจังหวะจากคนรักตอนอาบน้ำเสร็จหรือกำลังเดินเข้าห้อง ให้คุณผู้อ่านไปแอบและแกล้งทำเสียงให้ตกกระใจ วิธีนี้แฟนของคุณต้องมะแงกคุณเล็กน้อย555ด้วยความตกใจน้อยๆ แต่คนที่สนุกดูจะเป็นผู้แกล้ง ช่วยสร้างบรรยากาศแหฮาไม่ให้น่าเบื่อ

2 . เก็บใจไว้รอเธอ ตดใส่ผ้าห่ม
วิธีนี้เหมาะกับผู้ชายที่ชอบความพิเรน ให้เตรียมเก็บแก๊สไว้รอเข้านอนพร้อมกัน เมื่อถึงฤกษ์ดีให้ทำการวางระเบิดตดใส่สะเลยรับรองแฟนคุณวิ่งหนีแน่ๆ (ระวังแฟนจะไล่ให้ออกไปนอนข้างน้องนะครับ อิอิ)

3.แกล้งจุ๊บแก้มแล้ว แกล้งทำเป็นนอนหลับเนียนๆ
วิธีนี้ค่อนข้างจะกุ๊กกิสำหรับสาวๆ เป็นการสร้างความสัมพันธ์ก่อนนอนแบบๆน่ารัก ที่แฟนคุณก็ต้องชอบ

4.ผีผ้าห่ม
หั่นแน่วิธีนี้ค่อนข้างติดRate 18+ไปนิดแต่รับรองว่าจะทำให้คู่รักสนุกเหงื่อแตกแน่นอนปิดถ้ายด้วยเลิฟซีนสองต่อสอง ดูๆแล้ววิธีนี้เหมาะมากสำหรับคู่รักที่แต่งงานกันแล้วนะด้วยกันนอกนั้นผมไม่เกี่ยว








วิธีเหล่านี้ล้วนชวนสร้างความใกล้ชิดทำความรู้จักให้กับคู่รักมากยิ่งขึ้นผมการันตรี ฟันธง!!5555

3 วิธีฉุกเฉินในการกำจัดการความโกรธ




3 วิธีฉุกเฉินในการกำจัดการความโกรธ


ความโกรธเป็นสิ่งที่ทุกคุณสามรถเป็นกันได้ตลอดเวลา และบ่อยครั้งความโกรธเป็นอารมณ์ที่ยากต่อการควบคุม วันนี้เรามีวิธีที่ช่วยป้องกันระงับความโกรธให้กับคุณผู้อ่านคุณผู้อ่าน สามารถนำไปปรับใช้กำจัดควบคุมความโกรธของตัวคุณเองในยามฉุกเฉินแบบได้ผลแน่นอน  
1.เมื่อรู้ว่ากำลังโกรธสุดๆ ให้รีบเดินหนี
จากสถานการณ์นั้น ควรที่จะวิ่งหรือรีบออกเดินจากสถานที่แห่งนั้นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเดินได้ หรือเดินไปได้ไกลยิ่งดี เพื่อลดการขัดแย้งและการตัดสิ้นใจที่คุณอาจจะสูญเสียตามมาภายหลัง


2.บอกกับคนอื่นให้รู้ว่าคุณจะไม่โกรธเมื่อมีปัญหาขัดแย้ง
การบอกป่าวประกาศให้คนอื่นทราบว่าคุณจะไม่แสดงพฤติกรรมอารมณ์ที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง วิธีนี้เสมือนเป็นการป้องกันตนเองขั้นต้นที่ดีและท้าทายตนเอง ถ้าคุณสามารถทำตามที่บอกคนอื่นไว้ได้ถือว่าคุณชนะใจตัวเองและคนรอบข้าง และลดการเกิดปัญหาได้อีกด้วย


3.สูดหายใจเข้าลึกๆ 
ในสภาวะความโกรธกำลังครอบงำ จงคิดไว้เสมอว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่รู้ตัวว่ากำลังว่าโกรธ ให้รีบสูดหายใจเข้าปอดลึกๆแล้วค่อยๆปล่อยออกมา ทำแบบนี้เรื่อยๆประมาณ 3 –5 ครั้งจะช่วยให้คุณมีสติขึ้นและใจเย็นลง


            วิธีเหล่านี้ล้วนได้ผลมาแล้วจากตัวของผู้เขียนเองและเพื่อนซึ่งมันเป็นวิธีที่สามารถช่วยได้จริง และลดปัญหาต่อการทะเลาะวิวาทหรือผลกระทบได้ลองไปปรับใช้กันดูนะครับ 

2558/09/04

ประโยคคำถามง่ายๆเกี่ยวกับไกด์นำเที่ยวหรือมังคุเทศก์




Tour Guide สำหรับมังคุเทศก์

Do you have a question, Sir?

Yes? (if you see a hand raised)

Is there something I can help you with?

I'll try my best to answer your questions.

I'm afraid I don't have the answer to that. (Sorry I don't know.)

That's an interesting question.

I wish I knew the answer. (Sorry, I don't know.)

Hmm.That's a tough (difficult) question.

I'll have to look into that further.

I'll have to ask someone about that.

Hmm. I've never been asked that before.

Pardon my English; I don't quite understand your question.

I'm not sure, but I can find out for you.


Touristคำถามที่จะได้ยินจากนักท่องเที่ยว

Where is the ______ from here?

How long has _______ been here?

Where are we headed (going)now?

What time does _______ stay open until?

What else is there to do here?

Which _________ do you recommend?

Are we allowed to take pictures?

What's that over there? (tourist points)

Where's the best place to buy _______?

My son wants to know if _________? (parent asking a question for shy child)
Do you know where the nearest washroom is?

Could you tell us where the nearest bank is?

You don't happen to have a first-aid kit, do you? 

20 ประโยคถามตอบทั่วไปภาษาอังกฤษที่ควรรู้

วันนี้ขอนำเสนอประโยคถามตอบทั่วไปในภาษาอังกฤษที่ใช้ในชีวิตประจำวัน




1. What do you do? คุณทำงานอาชีพอะไร
This question means “What is your job/profession?”I’m a student.
I work in a bank.
I’m unemployed at the moment.


2. Are you married? คุณเเต่งงานเเล้วหรือยัง
Yes, I’ve been married for two years now.
I’m divorced.
I’m engaged – we’re getting married next year.
No, but I’m in a relationship.
Nope, I’m single.


3. Why are you studying English? ทำไมคุณถึงเรียนภาษาอังกฤษ
For work.
So I can communicate when I travel.
I love learning new languages.
Because I’d like to immigrate to the U.S.
I’m thinking of studying in England.


4. Where/How did you learn English?คุณเรียนภาษาอังกฤษที่ไหนหรือเรียนอย่างไร
I took classes for three years.
I did an intensive course.
I’ve been studying on my own.
You can also say “studying by myself.”I picked it up from movies and songs.
My girlfriend taught me.


5. What do you do in your free time?คุณทำอะไรในเวลาว่าง
I don’t have any free time!
I usually hang out with friends.
I go running a lot.
I do volunteer work.
I like reading and relaxing at home.


6. What’s the weather like? / How’s the weather?อากาศเป็นอย่างไร
Hot and humid.
It’s pouring – take an umbrella.
A little chilly – you might wanna bring a jacket.
Gorgeous – a perfect summer day!
It’s quite cold – make sure to bundle up.


7. What time is it? / Do you have the time?ตอนนี้กี่โมงเเล้ว
It’s ten o’clock.
It’s half past four.
It’s a quarter to twelve.
Let me check my phone.
Sorry, I don’t know.

คำถามเกี่ยวกับการช๊อบปิ๊งเเละสังคมทั่วไป

8. Can I help you? / Do you need any help?ให้ผมช่วยไหม/มีอะไรให้ช่วยมั้ย
No thanks, I’m just browsing.
Yes – do you have this in a larger size?
Yes – where are the try-on rooms?
Yeah, can you tell me how much this is?
Yeah, I’m looking for something under $30.


9. How’s it going?เป็นอย่างไรบ้าง
Great! Couldn’t be better!
Fine. How are things with you?Not bad.
I can’t complain.
Do you really wanna know?


10. How are you feeling?คุณรู้สึกอย่างไร
Great! Never better.
I’m all right.
Like I need a vacation.
A little depressed.
Really awful.
Pretty uneventful.
Very productive.
Super busy.
A total nightmare.


12. Did you like the movie?คุณชอบหนังเรื่องนี้มั้ย
It was fantastic.
It was terrible.
It wasn’t bad.
It’s one of the best I’ve ever seen.
No, I didn’t think it lived up to the hype.


13. How was the party?งานเลี้ยงเมื่อคืนเป็นยังไงบ้าง
Crazy – it was absolutely packed.
It was a good time.
Small, but fun.
There was hardly anybody there.
Boring – I couldn’t wait to get outta there.


14. Can you give me a hand?คุณช่วยถือของให้ผม/ฉันหน่อยสิ
Of course!
I’d be glad to.
Will it take long?
Sure – just a sec.
Sorry – I’m a bit busy at the moment.


15. What have you been up to lately?ที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง
I’ve been working a lot.
Mostly studying.
I’ve been taking it easy.
Planning my summer vacation.
Nothing much.


16. What’s the matter?มีอะไรสำคัญมั้ย
Oh, I’m just having a rough day.
I’m not feeling so good.
I just found out my mother’s in the hospital.
I’d rather not talk about it.
Nothing, I’m fine.


 คำถามเกี่ยวกับร้านอาหาร


17. What would you like to drink?คุณอยากดื่มอะไรมั้ย
Iced tea, please.
Just water for me.
What do you have?
Could we see the wine list?
Nothing for me, thanks.


18. Are you ready to order? พร้อมที่จะสั่งเเล้วหรือยัง
Not quite – I think we need a little more time.
What are the specials today?
Yes, I’ll have a Caesar salad and then the baked chicken with potatoes.
Uh-huh. To start off, we’ll split an order of nachos.
Almost – I just have a couple of questions.


19. Is everything OK?ทุกอย่างโอเคดีมั้ย
Yes, everything’s fine, thanks.
It’s all delicious!
Could we have some more water, please?
Actually, I’m still waiting for my side dish.
To be honest, my food is kinda cold. Could you heat it up?

20. Can I get you anything else?คุณอยากได้อะไรอย่างอื่นอีกมั้ย
Two decaf coffees,
please.Just the check, please.
Could I have a look at the dessert menu?
I’ll have a slice of apple pie.No thanks –
I think we’re just about done.

 
     ทั้งหมดนี้คือคำถามตอบง่ายๆที่ทุกคนควรจะฝึกฝนเรียนรู้ไว้นะครับ ง่ายๆมากๆหวังว่าจะมีประโยชน์ต่อผู้อ่านเเละผู้สนใจเจอกันบทความหน้าครับ

ฝึกภาษากับเด็กฝรั่งช่วยพัฒนาภาษาอังกฤษของคุณได้

จากประสบการของผู้เขียนวันนี้อยากเเนะนำการฝึกภาษาอังกฤษที่จะช่วยพัฒนาการสื่อสารของคุณให้ดียิ่งขึ้น 




           หากคุณมีเพื่อนฟรั่งลองเข้าไปทักทายลูกของเพื่อนคุณดู ยิ่งถ้าเป็นอายุราว 12 ขึ้นไปก็ยิ่งดี เพราะเด็กในวันนี้จะพูดภาษาไม่เร็วมาก เเละสำเนียงจะฟังง่ายกว่าผู้ใหญ่ทำให้ผู้ฟังหรือคู่สนทนาเข้าใจในสิ่งที่พูด จากประสบการณ์ของผู้เขียนได้มีโอกาศสนทนากับลูกของเพื่อนฝรั่งอยู่บ่อยๆ ทำให้การสนทนาภาษาอังกฤษไม่ยากอย่างที่คิดเเละฟังง่ายมาก จนทำให้ผู้เขียนรู้สึกว่าอยากคุยด้วยเเละคุยกันรู้เรื่องมากกว่าผู้ใหญ่ 

           ดั้งนั้น การฝึกภาษากับเด็กจะช่วยให้คุณพัฒนาการสื่อสารเเละการเข้าใจความหายมากกว่าเดิม ลองไปหาโอกาสคุยดูนะครับ วันนี้ขอจบเพียงเท่านี้ 

3 เหตุผลสั้นๆที่คุณต้องเรียนภาษาอังกฤษ








1.เรียนเพื่อใช้ติดต่อสื่อสาร

ทุกวันนี้โลกของเราเปลี่ยนเเปลงไปมาก ต้องมีการสื่อสารตลอดเวลาเพราะเราไม่ได้อยู่คนเดี่ยวบนโลกใบนี้ ซึ่งภาษากลางที่ทั่วโลกใช้เป็นที่รู้ดีก็คือ ภาษาอังกฤษ ฉะนั้นเราควรจะเรียนรู้ไว้ใช้ในการติดต่อสื่อสาร  สิ่งต่างๆที่เป็นภาษาอังกฤษเเละรวมถึงการค้าขาย จะทำให้เราได้เปรียบในสังคมมากยิ่งขึ้น 


2.เพื่อเอาตัวรอดในต่างเเดน

ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่คนเกือบครึ่งโลกสามารถพูดได้ ดั้งนั้นการไปเที่ยวต่างเเดนหรือไปเที่ยวก็จะไม่ยากลำบากหากคุณสื่อสารภาษาอังกฤษได้


3.การเข้าถึงข้อมูลที่มีประโยชน์

ข้อมูลสื่อต่างๆที่มีประโยชน์มากมายในอินเตอร์เน็ต  นับว่ามีประโยชน์มากเเละส่วนมากจะเป็นภาษาอังกฤษเเทบทั้งนั้น หากคุณสามารถเสพสื่อต่างๆได้ด้วยภาษาอังกฤษคุณจะเข้าถึงเเหล่งข้อมูลมหาศาลมากมายอันไม่จำกัด ได้เเก่ ข้อมูล สังคม การเมือง ข่าว เเละเศรษฐกิจ เป็นต้น

ทุกวันนี้หากเราพูดได้ภาษาเดียวจะทำให้ลำบากการใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบัน หากเรียนรู้ภาษาไว้จะทำให้ใชีชิวตง่ายขึ้นในสังคมโลกกาภิวัตน์